Monday, March 16, 2015

เด็กกับจินตนาการ

เด็กกับจินตนาการ
            โลกปัจจุบันนี้กำลังหมุนด้วยความเร็วที่สูงขึ้นสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างรอบๆตัวเราเกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งมากและเร็วเสียจนเราไม่รู้ตัวว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง การเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นอาจเกิดขึ้นโดยบังเอิญ หรืออาจจงใจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น แต่ที่สุดแล้วผมเชื่อว่าส่วนใหญ่ของการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นเกิดขึ้นอย่างตั้งใจ ไม่ว่าจะด้วยแรงจูงใจอะไรก็แล้วแต่ การเปลี่ยนแปลงอย่างจงใจเหล่านั้น จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยโดยปราศจากการคิดการวางแผนการตระเตรียมไว้ก่อนแล้วล่วงหน้า ซึ่งจุดเริ่มต้นแรกสุดต้องเริ่มที่จินตนาการก่อนเป็นอันดับแรกเสมอ
            คำว่าจินตนาการสำหรับคนในวัยผู้ใหญ่ วัยทำงาน เป็นสิ่งที่ยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน ที่จะคิดจะสร้าง จะหามันออกมาได้ น่าจะเป็นเพราะจินตนาการของผู้ใหญ่ มักมีกรอบความคิดอะไรบางอย่างมาปิดกลั้นไว้เสมอ ข้อจำกัดต่างๆมากมายเกิดขึ้นมาจากประสบการณ์ การผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ ทำอะไรต่ออะไรมามาก มีโอกาสได้ไปรู้ไปเห็นโน่นนี่นั่นมากกมาย หลายครั้งก็เอามาเป็นข้อมูลทางเลือก แต่หลายครั้งมันก็กลายมาเป็นข้อจำกัด ซึ่งแตกต่างจากวิธีคิดของเด็ก
            ตัวอย่างของค่ายรถยนต์รายใหญ่จากญี่ปุ่นอย่างนิสสัน (Nissan) ที่ได้เปิดเผยภาพรถยนต์ต้นแบบรุ่นล่าสุด ที่ดูเหนือจินตนาการแบบสุด ๆ เพราะมันมาจากความคิดและจินตนาการอันสดใสของเด็กๆ ชาวบราซิล บริษัทนิสสันในบราซิลได้จัดประกวดวาดภาพรถยนต์ต้นแบบ โดยบรรดาลูกๆ ของพนักงานบริษัทนิสสันในบราซิล เนื่องในโอกาสวันเด็กของประเทศบราซิล และให้นักออกแบบชั้นนำเป็นผู้ตัดสิน พวกเขาได้เลือกภาพที่สวยถูกใจพวกเขาออกมาทั้งหมด ๔ ภาพ ก่อนจะให้นักวาดภาพมืออาชีพจัดการต่อยอดมันให้ดูเป็นภาพสเก็ตของรถต้นแบบที่สามารถนำไปใช้งานได้จริงเลยทีเดียว นายโรเบิร์ต บาวเออร์ หัวหน้านักออกแบบ นิสสันในสหรัฐอเมริกาและริโอ เผยว่า พวกเขาเองก็มีความสุขที่ได้ร่วมงานกับเด็ก ๆ เหล่านั้น เพราะนอกจากจะได้เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงออกอย่างมีความสุขแล้ว พวกเขายังเรียนรู้จากบรรดาเด็ก ๆ ที่มีจินตนาการกว้างไกลเกินกว่าผู้ใหญ่จะทำได้ด้วย แม้รถยนต์ทั้ง ๔ รุ่น จะไม่ถูกนำมาผลิตในตอนนี้ แต่นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นให้เด็กๆ เหล่านี้เกิดแรงบันดาลใจขึ้นมาและเป็นผู้ลงมือสร้างมันขึ้นมาเองในอนาคตก็เป็นได้
            จินตนาการของเด็กๆ บางครั้งก็ดูเรียบง่ายไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับผู้ใหญ่ เพราะเคยมีประสบการณ์ชีวิตมามาก แต่สำหรับเด็กๆ แล้ว มันคือสิ่งแปลกใหม่ เป็นความท้าทายที่แสนจะตื่นเต้นสำหรับพวกเขา การมีโอกาสได้ปีนขึ้นไปบนกิ่งไม้ที่สูงจากพื้นดินเพียงไม่กี่ฟุต การปั้นแป้งโดล(สมัยนี้ไม่มีใครปั้นดินน้ำมันกันแล้ว) เป็นรูปสุนัขที่ดูยังไงก็ไม่เหมือนสุนัข การได้จุ่มตัวเองลงไปในน้ำลึกแค่เข่าแล้วก็กรี๊ดกร๊าดถึงจระเข้หรือฉลาม ทั้งหมดนี้ล้วนพรั่งพรูออกมาจากจินตนาของพวกเขาทั้งนั้น การสัมผัสต่างๆไม่ว่าจะทางตา หู จมูก ลิ้น สัมผัส ล้วนถูกเก็บรวมมาต่อยอดจินตนาการได้อย่างไม่น่าเชื่อ
            ผู้เขียนเองจึงมักจะพาลูกๆซึ่งยังเล็กอยู่(๖และ๔ขวบ) เดินทางไปในที่แปลกหูแปลกตากว่าที่พวกเขาเคยพบเจอ ไม่ต้องไกลอะไรมากมายให้สิ้นเปลือง บางครั้งแค่พาไปขับรถดูทุ่งนา พาไปวัด ไปสถานเลี้ยงเด็ก พิพิธภัณฑ์ เยี่ยมญาติๆในต่างจังหวัด ให้เขาได้พบเห็นได้ทำกิจกรรมที่หลากหลาย เพราะเชื่อว่าสิ่งต่างๆเหล่านั้นจะเข้าไปเพิ่มเติมข้อมูลในสมองของเขา และเมื่อมันผ่านกระบวนการอะไรบางอย่าง ผลของมันน่าจะตื่นเต้นน่าสนใจไม่น้อย  วิธีที่ผู้เขียนและผบ.ทบ.(ภรรยา)ใช้อยู่เสมอคือ ลองให้พวกเขาแต่งนิทานอะไรก็ได้ให้ฟังสักเรื่อง นิทานเหล่านั้นแน่นอนเลยว่าจะไม่เคยเหมือนหรือซ้ำกับใครมาก่อน อาจจะมีโครงเรื่องหรือตัวละครชื่อซ้ำหรือคล้ายบ้าง แต่รายละเอียดของเรื่องจะแตกต่างออกไป เด็กๆจะแต่งต่อเติมด้วยสิ่งต่างๆที่เขาได้ไปเจอไปเห็นมา โดยเฉพาะสิ่งที่เขาให้ความสนใจอย่างมาก สิ่งต่างๆเหล่านั้นจะถูกดัดแปลงปะปนอยู่ในนิทานที่แสนสนุกเสียเหลือเกินเรื่องนั้น และมันจะยิ่งเพิ่มความสนุกเข้าไปอีกด้วยคำถาม ที่ถูกป้อนให้เขาบอกรายละเอียดต่างๆมากขึ้นมากขึ้น
            ไม่ใช่แต่นิทานสำหรับเด็ก นิทานแบบเด็กๆนำเสนอแนวคิดแบบเด็กๆ แต่เต็มไปด้วยความสลับซับซ้อน ที่ถ่ายทอดแบบง่ายๆอย่างนิยายยอดนิยมเรื่อง “เจ้าชายน้อย” หรือ  Le Petit Prince เป็นนวนิยายที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของอ็องตวน เดอ แซ็งแตกซูว์เปรี นักเขียนชาวฝรั่งเศส ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. ๑๙๔๓ เจ้าชายน้อยถือได้ว่าเป็นหนังสือขายดีติดอันดับโลก และเป็นหนังสือที่ช่วยกระตุ้นสร้างจินตนาการให้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่เป็นที่รู้จักและนิยมอ่านกันทั่วโลก เนื้อเรื่องเล่าถึงการเดินทางของเจ้าชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่เรียนรู้หลายๆ สิ่งเกี่ยวกับชีวิตจากการเดินทาง ไปพบคนประเภทต่างๆ ตั้งแต่พระราชา คนขี้เมา นักธุรกิจ คนจุดโคมตามถนน ฯลฯ แต่ละคนหมกมุ่นกับงานหรือความคิดของตนเพื่อหนีสภาพความเป็นจริงซึ่งตนไม่ยอมรับทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ชัดว่าสิ่งที่แต่ละคนต้องการอย่างแท้จริงคืออะไร แต่เมื่อเจ้าชายน้อยมาพบสุนัขจิ้งจอกในทะเลทราย เขาจึงได้ตระหนักว่า ความจริงของชีวิตนั้นคือชีวิตต้องการความรัก ความรักที่สามารถจะแจกจ่ายให้ใครก็ได้อย่างไม่จำกัด ทั้งผู้รับและผู้ให้
            นอกจากนิทานแล้ว การวาดรูปก็เป็นอีกความสนุกและน่าตื่นเต้นของเด็กๆ จินตนาการที่ถูกนำเสนอในรูปวาด มักจะเหนือจริง และหลายครั้งที่ผู้ใหญ่นำเอามาใช้ประโยชน์ ทั้งในแง่ของความสุขจากการชม และการต่อยอดความคิดของเด็กๆมาเป็นผลิตภัณฑ์ หรือสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ดังตัวอย่างของบริษัทรถยนต์นิสสันที่กล่าวถึง ภาพยนตร์หนังสือหลายเรื่องก็มาจากจินตนาการของเด็ก ที่มาตกผลึกเป็นรูปธรรมในตอนโตเป็นผู้ใหญ่
จินตนาการของเด็กๆอาจถูกมองได้ว่าไร้สาระ ถ้าเราใช้วิธีคิดแบบผู้ใหญ่ แบบใช้เหตุผล แต่มันจะเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง น่าตื่นเต้นและน่าประหลาดใจอย่างมาก เมื่อเรารับรู้ สัมผัส หรือเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยใจที่ว่างเปล่า แม้ในวัยผู้ใหญ่ การย้อนตัวเองกลับไปคิดไปทำอะไรแบบเด็กๆ อีกครั้ง สามารถสร้างจินตนาการและความสุขได้เสมอ เด็กกับจินตนาการไม่ได้มีความสำคัญแค่เสริมสร้างทักษะความคิดให้กับเด็ก แต่มันส่งผลมาถึงผู้ใหญ่และคนรอบข้าง ที่สามารถจะเปิดใจคิดและรับรู้ได้ ขอเพียงแค่เปิดใจละทิ้งกรอบความคิดที่สั่งสมมาตลอดชีวิต ความสุขกับจินตนาการในวัยเด็ก ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะสัมผัสถึง


หมายเตุ: บทความนี้เป็นบทความที่เขียนเพื่อนำเสนอในหลักสูตรการบริหารงานอุตสาหกรรม 

เอกสารอ้างอิง
กระปุกดอทคอม. (2557). Nissan เผยภาพรถต้นแบบสุดน่ารักจากจินตนาการของเด็ก ๆ. ค้นเมื่อ 13 มกราคม 2558. จาก http://car.kapook.com/view106961.html

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. (2557). เจ้าชายน้อย. ค้นเมื่อ 14 มกราคม 2558. จาก http://th.wikipedia.org/wiki/เจ้าชายน้อย